http://www.pralanna.com/shoppage.php?shopid=349879
พระผงสุพรรณ
วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
พระผงสุพรรณอู่ทอง จงอางศึก เนื้อดำหลังเจดีย์ปี2510
พระผงสุพรรณ อู่ทอง จงอางศึก เนื้อดำ หลังเจดีย์ สร้างปี 2510 อู่ทองจงอางศึก พระดี ๆ อายุพระกว่า 50 ปี ปลุกเสกโดยเกจิอาจารย์ ดังๆ เช่น หลวงพ่อมุ่ยหลวงพ่อถิร หลวงปู่โพธิ์ หลวงปู่โต๊ะ ฯลฯวัตถุประสงค์เพื่อนำไปแจกทหาร และตำรวจในช่วงสงครามอินโดจีน ซึ่งเป็นที่มาของ กองทหาร ที่ถูกขนานนามจาก พวก เวียดกง ว่าทหารผี เพราะยิงไม่ตายนั่นเอง เหมาะสำหรับท่านที่ต้องทำงานเสี่ยงภัย เดินทางตลอดเช่น ตำรวจ ทหารผู้ขับรถเป็นประจำ ข้อมูลการสร้างพระผงสุพรรณ อู่ทอง จงอางศึก 28 กุมภาพันธ์ 2510 คณะรัฐมนตรี อนุมัติหลักการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่รัฐบาลสาธารณรัฐเวียดนาม โดยให้กองทัพบกจัดส่งหน่วยกำลังรบทางพื้นดินไปปฏิบัติการรบ กองทัพบกจึงจัดตั้งหน่วยรบเฉพาะกิจขึ้นในรูป กรมทหารอาสาสมัคร (กรมอสส.)ส่งไปร่วมรบกับชาติพันธมิตร ในประเทศเวียดนามเป็นหน่วยทหารภายใต้รหัสจงอางศึก หรือเข้าร่วมสังกัด ในกองพันที่ 9 ของกองกำลังสหรัฐ ของค่ายแบร์แคต 13 พฤษภาคม 2510 หลวงปู่โพธิ์ เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรีได้จัดพิธีมหาพุทธาภิเษก สร้าง พระอู่ทองออกศึก แจกแก่ทหาร รุ่นจงอางศึกนี้โดยเฉพาะโดยนิมนต์พระเกจิอาจารย์ชื่อดังมานั่งปรกปลุกเสกจำนวน 69 รูป อาทิเช่น หลวงปู่โพธิ์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ, หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์, หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ หลวงพ่อแต้มวัดพระลอย หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมเป็นต้น มวลสารเป็นเนื้อดินใช้ชิ้นส่วนพระชำรุดแตกหักจากกรุต่างๆมาเป็นส่วนผสมหลักเช่น พระผงสุพรรณ กรุวัดพระธาตุ,พระกรุวัดพระรูป, พระกรุวัดลำปะซิว, พระกรุวัดบ้านกร่าง, พระกรุถ้ำเสือ, พระกรุวัดบางยี่หนและพระเนื้อดินชำรุด แตกหักของพระเกจิอาจารย์ต่างๆอีกจำนวนมาก พุทธลักษณะคล้ายพระผงสุพรรณ แต่เป็นพระปางสมาธิ ด้านหลังเป็น รูปองค์พระปรางค์อันเป็นสัญลักษณ์ประจำวัดและเป็นสถานที่พบพระผงสุพรรณ พระรุ่นนี้มีประสบการณ์ด้านอิทธิปาฏิหาริย์มากมายในสงครามเวียดนามทหารไทยรุ่นจงอางศึกนี้ให้ความเชื่อมั่นในพุทธ คุณเป็นอันมาก ไม่ว่าจะโดนยิงโดนแทงหรือโดนระเบิด ต่างก็รอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชได้อย่างอัศจรรย์จนเป็นหน่วยทหารที่ได้รับคำยกย่องอย่างมากในสมรภูมิมีสีดำและแดง

http://www.pralanna.com/shoppage.php?shopid=349879
http://www.pralanna.com/shoppage.php?shopid=349879
พระผงสุพรรณ วัดพระธาตุพิหารแดง
เสถียร ท้วมจันทร์
พระผงสุพรรณ เป็นหนึ่ง ในพระเครื่องชุดเบญจภาคี ประกอบด้วย 1.พระสมเด็จนางพญา วัดระฆังฯ 2.พระผงสุพรรณ 3.พระสมเด็จนางพญา พิษณุโลก 4.พระทุ่งเศรษฐี กำแพงเพชร และ 5.พระรอด ลำพูน
พระผงสุพรรณ มีจุดกำเนิดอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี วัดเก่าแก่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณภูมิ มีอายุมากกว่า 600 ปี ตั้งอยู่ถนนสมภารคง ต.รั้วใหญ่ ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี
ชาวบ้านเรียกว่าวัดพระธาตุพิหารแดง
นอกจากเป็นวัดเก่าแก่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานแล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรีอีกด้วย
ภายในวัดมีวิหารขนาดใหญ่ ซึ่งประดิษฐานพระ ผงสุพรรณจำลององค์ใหญ่ ไว้ให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้บูชา และยังมีรูปปั้น หลวงพ่อโพธิ์ ญาณรังสี พระเกจิชื่อดังเมืองสุพรรณ
สำหรับตำนานความเป็นมาของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ตามบันทึกของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ที่แปลเอกสารจากใบลานเงินใบลานทอง ซึ่งขุดพบจากพระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
ระบุว่า พระบรมมหาจักรพรรดิเจ้า กษัตริย์ครองกรุง อโยธยา โปรดเกล้าฯ ให้ทรงสร้างพระสถูปองค์นี้ขึ้น และทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าไว้ภายใน หลังจากนั้นพระสถูปของพระองค์ชำรุด พระโอรสได้โปรดให้ปฏิสังขรณ์พระสถูปนี้
แต่มีบางตำนานระบุว่า ผู้ที่สร้างวัดพระ ศรีรัตนมหาธาตุ และพระสถูปที่บรรจุพระผงสุพรรณ คือ พระเจ้าสามพระยา บ้างก็ว่าเป็นสมเด็จพระบรมปฐมกษัตริย์ของกรุงศรีอยุธยา คือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือ พระเจ้าอู่ทอง โดยสร้างขึ้นขณะที่พระองค์ได้ย้ายกรุงราชธานีมาที่กรุงศรีอยุธยา
จากจารึกใบลานเงิน-ใบลานทอง ได้จารึกไว้ว่า ผู้ที่สร้างพระผงสุพรรณคือ พระฤๅษีผู้ทรงฤทธิ์ โดยมีฤๅษีผู้เป็นใหญ่เป็นประธานคือ พระมหาเถรปิยทัสสี ศรีสารีบุตร และได้กดลายนิ้วมือของท่านไว้ในองค์พระที่มีลายนิ้วมือทั้งหมด รวมทั้งพระผงสุพรรณ
ในปีพ.ศ.2456 ชาวจีนที่อาศัยอยู่ข้าง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลักลอบขุดองค์ พระปรางค์ได้ขนเครื่องทองโบราณนำออกมาขาย และขุดพบพระเครื่อง รวมถึงใบลานเงินใบลานทอง
ภายหลัง เจ้าพระยาสุนทรบุรี (อี้ กรรณสูต) เจ้าเมืองสุพรรณบุรี เห็นว่าถ้าหากปล่อยไว้สมบัติของชาติจะสูญหายไป จึงสั่งให้เปิดกรุ พบเครื่องทอง พระพุทธรูปบูชา พระพิมพ์ (พระเครื่อง) มีทั้งเนื้อชิน ทั้งเนื้อดิน ซึ่งพระที่มีชื่อเสียงที่ขุดค้นพบในพระปรางค์ของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ คือ พระผงสุพรรณ พระมเหศวร พระสุพรรณ
เจ้าพระยาสุนทรบุรีนำพระพิมพ์ต่างๆ ทั้งเนื้อดิน เนื้อโลหะ มารวมไว้ที่จวน
จนกระทั่งในปีนั้น พระบาทสมเด็จพระ มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสดอนเจดีย์ เจ้าพระยาสุนทรบุรีก็ไปเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จ และทูลเกล้าฯ ถวายพระผงที่ได้มาในครั้งนั้นส่วนหนึ่ง ท่านได้พระราชทานให้กับเหล่า ข้าราชบริพารที่ตามไปในครั้งนั้น ซึ่งมีทั้งกอง ลูกเสือป่า ทหาร ตำรวจที่ตามเสด็จ
ต่อมาเริ่มมีการสะสมพระผงสุพรรณ เพราะถือเป็นพระน้ำเอกของจังหวัดสุพรรณ บุรี ทำให้มีการเช่าหามีราคาเพิ่มขึ้น จนกระทั่ง ทุกวันนี้องค์ละหลายล้านบาท
ชมเมือง-พักผ่อน-อิ่มอร่อย
สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองสุพรรณ บุรี เริ่มที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุพรรณบุรี ตั้งอยู่ริมถนนสายสุพรรณฯ-ชัยนาท บริเวณศูนย์ราชการใหม่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองสุพรรณ ตั้งแต่สมัยยุคหินเดินทางผ่านกาลเวลาจนถึงปัจจุบัน มีทั้งรูปภาพ งานปั้น จนถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ตื่นตาและความเพลิดเพลิน สอบถามข้อมูลได้ที่เบอร์โทร. 0-3553-5330, 0-3553-6100-1
นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร (อุทยานมังกรสวรรค์) ซึ่ง ตั้งอยู่ในบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผู้คนต้องแวะเวียนไปเที่ยวชม เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ โทร. 0-3522-6211
สำหรับที่พักในตัวเมืองสุพรรณบุรี มีโรงแรม วาสิฏฐี ซิตี้โฮเทล เบอร์โทร. 0-3552-6111, 0-3552-6123
โรงแรมคุ้มสุพรรณ เบอร์โทร. 0-3552-2273-6
โรงแรมสองพันบุรี เบอร์โทร. 0-3552-2555-7, 0-3554-6667-71 โทรสาร 0-3552-2097
รีสอร์ทจุรีปันสุข เบอร์โทร. 0-3552-6115
ส่วนร้านอาหารขึ้นชื่อของ เมืองสุพรรณ มี ร้านกุ่ยหมง ตั้งอยู่ข้างที่ว่าการอำเภอบางปลาม้า โทร. 0-3558-7256, 08-9515-1302
ร้านแม่บ๊วย อยู่ตรงข้ามที่ว่าการอำเภอบางปลาม้า โทร.0-3558-6424, 0-3558-7077
ร้านน้องแตน ซึ่งอยู่เส้นทางเดียวกับวัด พระศรีรัตนมหาธาตุ เบอร์โทร. 0-3552-2680
ส่องพระผงสุพรรณ
ลักษณะ 3 พิมพ์
นายพิศาล เตชะวิภาค หรือ เซียนต้อย เมืองนนท์ ให้รายละเอียดไว้ในการอบรมวิธีการส่องพระผงสุพรรณ จัดโดยมติชน อคาเดมี ถึง พระผงสุพรรณ 1 ในพระเครื่องชุดเบญจภาคี ว่า เป็นพระเนื้อดิน สร้างจากเกสรร้อยแปด ผสมกับดินที่กรองละเอียด นำมาคลุกเคล้า แล้วนำมากดพิมพ์ นำไปเผาก็ทำให้เกิดสีทั้งหมด 4 สี คือ สีแดง สีเหลือง หรือสีพิกุล สีเขียว และสีดำ
มี 3 พิมพ์ คือ พิมพ์หน้าแก่ พิมพ์หน้ากลาง และพิมพ์หน้าหนุ่ม
พิมพ์หน้าหนุ่ม
1.ปลายยอดเหนือเกศจะพับเข้า
2.ลูกตาขวากลม ลูกตาซ้ายยาว
3.คิ้วขวาโค้งงอน คิ้วซ้ายเฉียงชี้
4.ริมฝีปากหนา
5.หูซ้ายขวาเท่ากัน
6.อกล่ำนูนแต่เล็กกว่าพิมพ์หน้าแก่และ พิมพ์หน้ากลาง
7.ไหล่แคบ แขนอวบล่ำ ซอกแขนลึก
8.มือด้านซ้ายที่วางไว้ที่หน้าตักใหญ่กว่าของพิมพ์หน้าแก่และพิมพ์หน้ากลาง
9.ใต้เท้าซ้ายติดเป็นปื้นนูนขึ้นมา
พิมพ์หน้าแก่
1.จะตัดขอบเป็นรูปห้าเหลี่ยมก็มี สามเหลี่ยม ก็มี ด้านข้างจะมีรอยตอกตัด
2.ลูกตาด้านขวาเล็กกว่าด้านซ้าย คิ้วขวาโค้งงอน
3.ในซอกข้างหูด้านซ้ายจะมีผดขึ้น
4.หูด้านขวายาวกว่าหูด้านซ้าย
5.หน้าอกนูนใหญ่
6.ข้อพับศอกทั้งซ้ายและขวา
7.ข้อมือซ้ายเหมือนขาด ไม่ติดต่อกัน
8.ปลายนิ้วเท้าขวากระดก
9.ใต้ขาด้านซ้ายองค์พระ จะมีตุ่มเม็ดหนึ่ง
10.ยอดเกศจะเป็นรอยหยักควั่นสองขยัก
พิมพ์หน้ากลาง
1.ตาและคิ้ววางวาดเสมอกัน คิ้วโก่งทั้งสองข้าง ตาจะไม่เท่ากัน จมูกบานใหญ่
2.หูซ้ายยาวกว่าหูขวา ในหูด้านซ้ายและขวาจะมีผดอยู่เล็กน้อย
3.หัวไหล่ด้านขวาจะมีติ่งหรือขีดอยู่ข้างไหล่
4.ข้อพับแขนด้านซ้ายต่ำลงมากว่าข้อพับแขนด้านขวา
5.ปลายนิ้วมือยาวเกือบจรดท้องแขน
6.เห็นนิ้วมือโป้งด้านขวาชัด
7.ปลายนิ้วโป้งเท้าด้านขวาจะนูนชัด
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM056UTBOakkxTUE9PQ==
พระผงสุพรรณ เป็นหนึ่ง ในพระเครื่องชุดเบญจภาคี ประกอบด้วย 1.พระสมเด็จนางพญา วัดระฆังฯ 2.พระผงสุพรรณ 3.พระสมเด็จนางพญา พิษณุโลก 4.พระทุ่งเศรษฐี กำแพงเพชร และ 5.พระรอด ลำพูน
พระผงสุพรรณ มีจุดกำเนิดอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี วัดเก่าแก่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณภูมิ มีอายุมากกว่า 600 ปี ตั้งอยู่ถนนสมภารคง ต.รั้วใหญ่ ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี
ชาวบ้านเรียกว่าวัดพระธาตุพิหารแดง
นอกจากเป็นวัดเก่าแก่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานแล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรีอีกด้วย
ภายในวัดมีวิหารขนาดใหญ่ ซึ่งประดิษฐานพระ ผงสุพรรณจำลององค์ใหญ่ ไว้ให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้บูชา และยังมีรูปปั้น หลวงพ่อโพธิ์ ญาณรังสี พระเกจิชื่อดังเมืองสุพรรณ
สำหรับตำนานความเป็นมาของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ตามบันทึกของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ที่แปลเอกสารจากใบลานเงินใบลานทอง ซึ่งขุดพบจากพระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
ระบุว่า พระบรมมหาจักรพรรดิเจ้า กษัตริย์ครองกรุง อโยธยา โปรดเกล้าฯ ให้ทรงสร้างพระสถูปองค์นี้ขึ้น และทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าไว้ภายใน หลังจากนั้นพระสถูปของพระองค์ชำรุด พระโอรสได้โปรดให้ปฏิสังขรณ์พระสถูปนี้
แต่มีบางตำนานระบุว่า ผู้ที่สร้างวัดพระ ศรีรัตนมหาธาตุ และพระสถูปที่บรรจุพระผงสุพรรณ คือ พระเจ้าสามพระยา บ้างก็ว่าเป็นสมเด็จพระบรมปฐมกษัตริย์ของกรุงศรีอยุธยา คือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือ พระเจ้าอู่ทอง โดยสร้างขึ้นขณะที่พระองค์ได้ย้ายกรุงราชธานีมาที่กรุงศรีอยุธยา
จากจารึกใบลานเงิน-ใบลานทอง ได้จารึกไว้ว่า ผู้ที่สร้างพระผงสุพรรณคือ พระฤๅษีผู้ทรงฤทธิ์ โดยมีฤๅษีผู้เป็นใหญ่เป็นประธานคือ พระมหาเถรปิยทัสสี ศรีสารีบุตร และได้กดลายนิ้วมือของท่านไว้ในองค์พระที่มีลายนิ้วมือทั้งหมด รวมทั้งพระผงสุพรรณ
ในปีพ.ศ.2456 ชาวจีนที่อาศัยอยู่ข้าง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลักลอบขุดองค์ พระปรางค์ได้ขนเครื่องทองโบราณนำออกมาขาย และขุดพบพระเครื่อง รวมถึงใบลานเงินใบลานทอง
ภายหลัง เจ้าพระยาสุนทรบุรี (อี้ กรรณสูต) เจ้าเมืองสุพรรณบุรี เห็นว่าถ้าหากปล่อยไว้สมบัติของชาติจะสูญหายไป จึงสั่งให้เปิดกรุ พบเครื่องทอง พระพุทธรูปบูชา พระพิมพ์ (พระเครื่อง) มีทั้งเนื้อชิน ทั้งเนื้อดิน ซึ่งพระที่มีชื่อเสียงที่ขุดค้นพบในพระปรางค์ของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ คือ พระผงสุพรรณ พระมเหศวร พระสุพรรณ
เจ้าพระยาสุนทรบุรีนำพระพิมพ์ต่างๆ ทั้งเนื้อดิน เนื้อโลหะ มารวมไว้ที่จวน
จนกระทั่งในปีนั้น พระบาทสมเด็จพระ มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสดอนเจดีย์ เจ้าพระยาสุนทรบุรีก็ไปเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จ และทูลเกล้าฯ ถวายพระผงที่ได้มาในครั้งนั้นส่วนหนึ่ง ท่านได้พระราชทานให้กับเหล่า ข้าราชบริพารที่ตามไปในครั้งนั้น ซึ่งมีทั้งกอง ลูกเสือป่า ทหาร ตำรวจที่ตามเสด็จ
ต่อมาเริ่มมีการสะสมพระผงสุพรรณ เพราะถือเป็นพระน้ำเอกของจังหวัดสุพรรณ บุรี ทำให้มีการเช่าหามีราคาเพิ่มขึ้น จนกระทั่ง ทุกวันนี้องค์ละหลายล้านบาท
ชมเมือง-พักผ่อน-อิ่มอร่อย
สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองสุพรรณ บุรี เริ่มที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุพรรณบุรี ตั้งอยู่ริมถนนสายสุพรรณฯ-ชัยนาท บริเวณศูนย์ราชการใหม่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองสุพรรณ ตั้งแต่สมัยยุคหินเดินทางผ่านกาลเวลาจนถึงปัจจุบัน มีทั้งรูปภาพ งานปั้น จนถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ตื่นตาและความเพลิดเพลิน สอบถามข้อมูลได้ที่เบอร์โทร. 0-3553-5330, 0-3553-6100-1
นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร (อุทยานมังกรสวรรค์) ซึ่ง ตั้งอยู่ในบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผู้คนต้องแวะเวียนไปเที่ยวชม เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ โทร. 0-3522-6211
สำหรับที่พักในตัวเมืองสุพรรณบุรี มีโรงแรม วาสิฏฐี ซิตี้โฮเทล เบอร์โทร. 0-3552-6111, 0-3552-6123
โรงแรมคุ้มสุพรรณ เบอร์โทร. 0-3552-2273-6
โรงแรมสองพันบุรี เบอร์โทร. 0-3552-2555-7, 0-3554-6667-71 โทรสาร 0-3552-2097
รีสอร์ทจุรีปันสุข เบอร์โทร. 0-3552-6115
ส่วนร้านอาหารขึ้นชื่อของ เมืองสุพรรณ มี ร้านกุ่ยหมง ตั้งอยู่ข้างที่ว่าการอำเภอบางปลาม้า โทร. 0-3558-7256, 08-9515-1302
ร้านแม่บ๊วย อยู่ตรงข้ามที่ว่าการอำเภอบางปลาม้า โทร.0-3558-6424, 0-3558-7077
ร้านน้องแตน ซึ่งอยู่เส้นทางเดียวกับวัด พระศรีรัตนมหาธาตุ เบอร์โทร. 0-3552-2680
ส่องพระผงสุพรรณ
ลักษณะ 3 พิมพ์
นายพิศาล เตชะวิภาค หรือ เซียนต้อย เมืองนนท์ ให้รายละเอียดไว้ในการอบรมวิธีการส่องพระผงสุพรรณ จัดโดยมติชน อคาเดมี ถึง พระผงสุพรรณ 1 ในพระเครื่องชุดเบญจภาคี ว่า เป็นพระเนื้อดิน สร้างจากเกสรร้อยแปด ผสมกับดินที่กรองละเอียด นำมาคลุกเคล้า แล้วนำมากดพิมพ์ นำไปเผาก็ทำให้เกิดสีทั้งหมด 4 สี คือ สีแดง สีเหลือง หรือสีพิกุล สีเขียว และสีดำ
มี 3 พิมพ์ คือ พิมพ์หน้าแก่ พิมพ์หน้ากลาง และพิมพ์หน้าหนุ่ม
พิมพ์หน้าหนุ่ม
1.ปลายยอดเหนือเกศจะพับเข้า
2.ลูกตาขวากลม ลูกตาซ้ายยาว
3.คิ้วขวาโค้งงอน คิ้วซ้ายเฉียงชี้
4.ริมฝีปากหนา
5.หูซ้ายขวาเท่ากัน
6.อกล่ำนูนแต่เล็กกว่าพิมพ์หน้าแก่และ พิมพ์หน้ากลาง
7.ไหล่แคบ แขนอวบล่ำ ซอกแขนลึก
8.มือด้านซ้ายที่วางไว้ที่หน้าตักใหญ่กว่าของพิมพ์หน้าแก่และพิมพ์หน้ากลาง
9.ใต้เท้าซ้ายติดเป็นปื้นนูนขึ้นมา
พิมพ์หน้าแก่
1.จะตัดขอบเป็นรูปห้าเหลี่ยมก็มี สามเหลี่ยม ก็มี ด้านข้างจะมีรอยตอกตัด
2.ลูกตาด้านขวาเล็กกว่าด้านซ้าย คิ้วขวาโค้งงอน
3.ในซอกข้างหูด้านซ้ายจะมีผดขึ้น
4.หูด้านขวายาวกว่าหูด้านซ้าย
5.หน้าอกนูนใหญ่
6.ข้อพับศอกทั้งซ้ายและขวา
7.ข้อมือซ้ายเหมือนขาด ไม่ติดต่อกัน
8.ปลายนิ้วเท้าขวากระดก
9.ใต้ขาด้านซ้ายองค์พระ จะมีตุ่มเม็ดหนึ่ง
10.ยอดเกศจะเป็นรอยหยักควั่นสองขยัก
พิมพ์หน้ากลาง
1.ตาและคิ้ววางวาดเสมอกัน คิ้วโก่งทั้งสองข้าง ตาจะไม่เท่ากัน จมูกบานใหญ่
2.หูซ้ายยาวกว่าหูขวา ในหูด้านซ้ายและขวาจะมีผดอยู่เล็กน้อย
3.หัวไหล่ด้านขวาจะมีติ่งหรือขีดอยู่ข้างไหล่
4.ข้อพับแขนด้านซ้ายต่ำลงมากว่าข้อพับแขนด้านขวา
5.ปลายนิ้วมือยาวเกือบจรดท้องแขน
6.เห็นนิ้วมือโป้งด้านขวาชัด
7.ปลายนิ้วโป้งเท้าด้านขวาจะนูนชัด
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM056UTBOakkxTUE9PQ==
พระผงสุพรรณ
พระผงสุพรรณ ด้านหลังจะมีรอยพับ ให้ชม 3 องค์ ปล่อยแค่องค์เดียว เก็บไว้บูชา 2 องค์
หลัก 17 ประการ ในการพิจารณาพระผงสุพรรณ
1. 1.1 รูปทรงสามเหลี่ยม 1.2 รูปสี่เหลี่ยม. 1.3 รูปห้าเหลี่ยม
2. ดินในการสร้างพระผงสุพรรณมีว่านส่วนผสม/มวลสารบังคับเป็นการสร้างโดยฤาษีมีสูตรที่ตรงกันกับพระสกุลลำพูนเช่นเดียวกับพระรอด พระคง
3. แร่ดอกมะขาม มักจะปรากฏในกรณี ดินดิบ ( เผาไม่สุก หรือดินศิลาธิคุณ )
4. ด้านหลังพระผง จะมีรอยพับเข้ามา
ประเภทของเนื้อพระ
5. วรรณสีของพระผงสุพรรณ สีเขียว สีดำ สีใบลานแห้ง สีดอกพิกุล สีดอกพิกุลแห้งสีเขียว สีน้ำตาล
6. ร่องศรขอบพระผง มักจะปรากฏร่องศรด้านข้างองค์ พระแสดงความเหี่ยวย่นของเนื้อพระแสดงถึงอายุพระที่มีการหดตัวของมวลสารในองค์พระว่าด้วยทฤษฏี
7. ว่านหลุด แร่หลุด ในกรณีพระที่อยู่ในความชื้นใต้ดิน เนื้อพระจะเป็นรูพรุนเป็นจุดหนึ่งในการพิจารณาพระแท้ทำให้ทราบอายุพระโครงสร้างทางโมเลกุลเริ่มเสื่อมสลายทางวิทยาศาสตร์
8. รอยตอกคัดด้านข้างพระผงมีลาย ลักษณะ ตัดแบบเฉลียง
9. โซนเนื้อหยาบ/ละเอียดกว่าว่าน การแบ่งโซนเนื้อพระผงสุพรรณแบ่งออกเป็น 2 โซนเนื้อ คือ
9.1 โซนเนื้อหยาบ จากการสันนิษฐานเนื้อหยาบเป็นการสร้างยุคแรก
9.2 โซนเนื้อละเอียด จากการสันนิษฐานเป็นการสร้างยุคที่ 2
10. สิ่งแวดล้อมที่พบ ส่วนที่มีความชื้น ไม่มีความชื้นน้อยพระผงสุพรรณที่อยู่ในระดับความชื้นสูงใกล้ระดับน้ำใต้ดินแร่ ธาตูในดินกัดผิวพระทำให้เกิดรูพรุน พระชนิดนี้เนื้อพระจะด้านและสากมือ ส่วนพระที่ค้นพบในระดับดินชั้นบนเนื้อพระจะสวยมีความแห้ง สัมผัสด้วยมือผิวพระจะเกิดความมันวาว เกิดแผ่นฟิล์มบนผิวพระ
11. ไข่ปลาในร่องลายมือ
12. แผ่นฟิล์มที่ปรากฏบนผิวพระเมื่อสัมผัสด้วยมือและปัดด้วยพู่กันหูวัว
13. คราบรารัก/ลงรักปิดทอง
14. มวลสารบังคับที่พบแร่ดอกมะขาม
15. ยุคของการสร้างจากวัตถุ พยานที่พบเนื้อหยาบแกแร่ดอกมะขามสันนิษฐานสร้างยุดแรกเหตุผลพระเนื้อพระนี้ไปตรงกับเนื้อพระลำพูน ซึ่งฤาษีเป็นผู้สร้างเช่นเดียวกัน ตรงกับในแผ่นลานทอง ส่วนเนื้อละเอียดแก่ว่านสันนิษฐานสร้างยุคที่ 2
16. คราบกรุดินนวล/แคลเซียม
17. โซนเนื้อพระผงสุพรรณแก่ว่าน แก่แร่ดอกมะขาม
http://www.velamall.com/classifieds/view.php?id=10060610
หลัก 17 ประการ ในการพิจารณาพระผงสุพรรณ
1. 1.1 รูปทรงสามเหลี่ยม 1.2 รูปสี่เหลี่ยม. 1.3 รูปห้าเหลี่ยม
2. ดินในการสร้างพระผงสุพรรณมีว่านส่วนผสม/มวลสารบังคับเป็นการสร้างโดยฤาษีมีสูตรที่ตรงกันกับพระสกุลลำพูนเช่นเดียวกับพระรอด พระคง
3. แร่ดอกมะขาม มักจะปรากฏในกรณี ดินดิบ ( เผาไม่สุก หรือดินศิลาธิคุณ )
4. ด้านหลังพระผง จะมีรอยพับเข้ามา
ประเภทของเนื้อพระ
5. วรรณสีของพระผงสุพรรณ สีเขียว สีดำ สีใบลานแห้ง สีดอกพิกุล สีดอกพิกุลแห้งสีเขียว สีน้ำตาล
6. ร่องศรขอบพระผง มักจะปรากฏร่องศรด้านข้างองค์ พระแสดงความเหี่ยวย่นของเนื้อพระแสดงถึงอายุพระที่มีการหดตัวของมวลสารในองค์พระว่าด้วยทฤษฏี
7. ว่านหลุด แร่หลุด ในกรณีพระที่อยู่ในความชื้นใต้ดิน เนื้อพระจะเป็นรูพรุนเป็นจุดหนึ่งในการพิจารณาพระแท้ทำให้ทราบอายุพระโครงสร้างทางโมเลกุลเริ่มเสื่อมสลายทางวิทยาศาสตร์
8. รอยตอกคัดด้านข้างพระผงมีลาย ลักษณะ ตัดแบบเฉลียง
9. โซนเนื้อหยาบ/ละเอียดกว่าว่าน การแบ่งโซนเนื้อพระผงสุพรรณแบ่งออกเป็น 2 โซนเนื้อ คือ
9.1 โซนเนื้อหยาบ จากการสันนิษฐานเนื้อหยาบเป็นการสร้างยุคแรก
9.2 โซนเนื้อละเอียด จากการสันนิษฐานเป็นการสร้างยุคที่ 2
10. สิ่งแวดล้อมที่พบ ส่วนที่มีความชื้น ไม่มีความชื้นน้อยพระผงสุพรรณที่อยู่ในระดับความชื้นสูงใกล้ระดับน้ำใต้ดินแร่ ธาตูในดินกัดผิวพระทำให้เกิดรูพรุน พระชนิดนี้เนื้อพระจะด้านและสากมือ ส่วนพระที่ค้นพบในระดับดินชั้นบนเนื้อพระจะสวยมีความแห้ง สัมผัสด้วยมือผิวพระจะเกิดความมันวาว เกิดแผ่นฟิล์มบนผิวพระ
11. ไข่ปลาในร่องลายมือ
12. แผ่นฟิล์มที่ปรากฏบนผิวพระเมื่อสัมผัสด้วยมือและปัดด้วยพู่กันหูวัว
13. คราบรารัก/ลงรักปิดทอง
14. มวลสารบังคับที่พบแร่ดอกมะขาม
15. ยุคของการสร้างจากวัตถุ พยานที่พบเนื้อหยาบแกแร่ดอกมะขามสันนิษฐานสร้างยุดแรกเหตุผลพระเนื้อพระนี้ไปตรงกับเนื้อพระลำพูน ซึ่งฤาษีเป็นผู้สร้างเช่นเดียวกัน ตรงกับในแผ่นลานทอง ส่วนเนื้อละเอียดแก่ว่านสันนิษฐานสร้างยุคที่ 2
16. คราบกรุดินนวล/แคลเซียม
17. โซนเนื้อพระผงสุพรรณแก่ว่าน แก่แร่ดอกมะขาม
http://www.velamall.com/classifieds/view.php?id=10060610
พระผงสุพรรณ
พระผงสุพรรณ ผู้สร้าง สันนิฐานว่าเป็นกษัตริย์ในราชวงค์ สุพรรณภูมิ น่าจะเป็นสมเด็จ พระบรมราชาธิราช ที่ 2 ประมาณ พ.ศ. 2091 ในจารึกแผ่นทองที่พบที่เจดีย์ใหญ่วัดพระ ศรีรัตนมหาธาตุ ระบุว่าได้มีพระบรมราชโองการสั่งให้พระฤาษีพิมพิลาไลย์ เป็นประธานในการสร้าง ต่อมาในปี 2456 ในสมัย รัชกาลที่ 6 มีคนลอบขุดกรุนี้ได้สมบัติไปไม่น้อยรวมถึง จารึกแผ่นทองอีกจำนวนมาก
พระสุนทรบุรี (อี้ กรรณสูต) เจ้าเมืองสุพรรณบุรีขณะนั้นได้สั่งให้เปิดกรุอย่างเป็นทางการ และนำพระพิมพ์และจารึกแผ่นทองที่เหลือจำนานหนึ่งทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระผงสุพรรณเป็นพระเนื้อดินละเอียดผสมว่าน108 เนื้อหนึกนุ่มมีคราบน้ำว่านและรารัก พิมพ์ทรงเป็นศิลป์อู่ทอง องค์พระปางมารวิชัยประทับบนฐานเขียง พระก้มเล็กน้อยพระอุระนูนเด่น แลดูเหมือนการบำเพ็ญสมาธิ เคร่งขรึม
พุทธคุณ เน้นด้านเมตตาบารมี การเป็นผู้นำน่าเกรงขาม การมีโชค ความมีเสน่ห์ ขจัดทุกข์ความสงบหนักแน่น
พุทธคุณ เน้นด้านเมตตาบารมี การเป็นผู้นำน่าเกรงขาม การมีโชค ความมีเสน่ห์ ขจัดทุกข์ความสงบหนักแน่น
http://tey15.wordpress.com/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9C%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93/
พระผงสุพรรณ
พระผงสุพรรณ พระผงสุพรรณเป็นพระที่กำเนิดในจังหวัดสุพรรณบุรี พบในองค์พระปรางค์ ซึ่งเป็นพระประธานของวัดพระศรีมหาธาตุ ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี มีจารึกลานทองแจ้งว่าสร้างในสมัยอู่ทอง
ตำราในแผ่นทองวัดพระธาตุเมืองสุพรรณบุรี ที่พระยาสุนทรสงคราม (อี้ กรรณสูตร) ผู้ว่าราชการเมืองสุพรรณบุรี ค้นพบในกรุพระปรางค์วัดพระธาตุ และกรุถูกเปิดเป็นทางการ เมื่อปี พ.ศ. 2456 ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่งสำรวจขุดค้น แล้วอนุรักษ์ของที่มีค่ากับวัตถุ โบราณไว้ในปีเดียวกันนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้เสด็จประพาสดอนเจดีย์ สมเด็จกรมพระยาดำรงนุภาพได้ตามเสด็จไปด้วยที่วัดร้างเมืองสุพรรณบุรี เมื่อปีพุทธศักราช 2456 (ในแผ่นทองอักษรขอมโบราณแปลออกดังนี้)
การสร้างขยายถนน และการสร้างถนนข้างวัดพระศรีมหาธาตุ และการขุดท่อระบายน้ำบริเวณหน้าวัด ทำให้ช่างโยธาได้พบพระผงสุพรรณจำนวนมาก ซึ่งบรรจุในหม้อดินเผาโบราณ จากการเปิดเผยของช่างแจ๊ค และปลัดอาวุโส อำเภอ สองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี จากความเป็นจริงอดีตเจ้าอาวาสคนเก่าได้ให้ข้อคิดว่าจะมีพระเจดีย์ใหญ่น้อยล้อมรอบพระปรางค์ (เจดีย์องค์ใหญ่ ) องค์ ใหญ่ ประมาณ 40-50 องค์ ดังนั้น การขุดสร้างถนนด้านข้างวัด จึงเขาเขต เจดีย์ ใหญ่เล็กที่ล้อมรอบองค์พระธาตุอยู่ จึงค้นพระผงสุพรรณแท้ เป็นจำนวนมาก
พระผงสุพรรณที่ค้นพบส่วนใหญ่จะมีลายมือด้านหลังพระใหญ่มวลสาร ใกล้เคียงพระรอดพระคงวัดมหาวัน จากกมวลสารการสร้าพระผงสุพพรณน่าจะเป็นการสร้างยุคแรกยุคที่พระฤษีสร้างเพราะเป็นสูตรการสร้างพระเนื้อดินของพระฤษี ที่มีดินศิลาธิคุณ เป็นหลักในการสร้าง
http://puttapornamulet.blogspot.com/p/blog-page_9673.html
พระผงสุพรรณหลวงพ่อดี วัดพระรูป สุพรรณบุรี รุ่นแรก 2513
ประวัติหลวงพ่อดีวัดพระรูป นามเดิมชื่อนายดี นามสกุล สีขำศุข เกิด 7 ตุลาคม 2454 ปีชวด 15 ค่ำเดือน 11 สถานที่เกิด 151 หมู่ 1 ต.ไผ่ขวาง อ.เมือง จ. สุพรรณบุรี ชื่อนายปั้น นางหลุ่น สีขำศุข มีพี่น้อง 5 คน อุปสมบท อายุ 23 ปี วันที่25 เมษายน 2477 ณ วัดไชนาวาส โดยมีหลวงพ่อท้วม เป็นอุปชา นามฉายา จตฺตมาโล มรณะ18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา 18.00น. อายุ 96 ปี 73 พรรษา พระราชทานเพลิงศพ วันที่ 16 มีนาคม 2551วัตถุมงคลและปาฏิหารว่างๆจะนำมาเล่าให้ฟังนะครับ
หลวงพ่อดีท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านได้เข้าไปในพระอุโบสถและตั่งสัตย์ปฏิญาณว่า "ลูกไม่มีเงินที่จะพัฒนาวัด และเกินกำลังเหลือเกินจะขอสร้างวัตถุมงคลเพื่อหารายได้เข้าวัดขอให้วัตถุมงคลนี้มีเมตตา บารมี และศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้ผู้ที่มาเช่านำไปใช้เกิดศิริมงคล ลูกขอทำวัตถุมงคลนำเงินมาบูรณะวัดพระรูปให้เจริญก้าวหน้า และเมื่อวัดเจริญก้าวหน้าแล้วจะหยุดสร้างพระทันที ในการสร้างพระเครื่องพิมพ์ต่าง ๆ ท่านได้นำพระพิมพ์ต่าง ๆ ที่แตกหักจากเจดีย์ต่าง ๆ ทั่วเมืองสุพรรณ โดยเฉพาะพระชำรุดหักของวัดบ้านกร่าง วัดพระรูป และวัดมหาธาตุ พระผงสุพรรณ ฯลฯ มาเป็นส่วนผสมในมวลสาร
หลวงพ่อดีนั้นเวลาท่านทำพระเครื่องท่านจะกดพิมพ์เองกับมือวันหนึ่งทำไม่มากองค์หรอกครับ(เพราะเมื่อหมดฤกษ์ดี ยามดี ในแต่ละวันท่านก็หยุด)ท่านสร้างและเก็บไว้ เมื่อเกจิสมัยนั้นแวะเวียนมาหาท่าน ก็จะร่วมกันปลุกเสกด้วย (หลวงปู่โต๊ะ)(หลวงพ่อมุ่ย)(หลวงพ่อถิร)ฯลฯ
และนำเข้าพุทธาภิเศก ใหญ่อีกครั้ง ท่านสร้างพระเพราะต้องการให้ชาวบ้านได้ร่วมทำบุญและได้พระเครื่องไว้บูชาและนำเงินมาบำรุงวัดซึ้งในขณะนั้นวัดพระรูปได้ทรุดโทรมมาก
เมื่อได้เพียงพอแล้วจะหยุดสร้างทันที ต่อมาท่านก็หยุดสร้างจริงๆ ไม่ได้สร้างทุกๆปี หรือตามวาระพรรษา รุ่นหลังๆเป็นลูกศิษย์ขอสร้างเนื่องจากจะซ่อมแซมวัด(จึงเป็นเหตุให้ผงสุพรรณและพระขุนแผน พระปิดตา รุ่นที่หลวงพ่อกดพิมพ์เองจริงๆแล้วมีจำนวนไม่มากนัก)แต่รุ่นหลังๆ พุทธคุณก็เหมือนกันทุกประการ
ชาวเมืองสุพรรณและพื้นที่ใกล้เคียงล่ำลือกันว่า((จะมีผีเสื้อ ผึ้ง และนกหลายชนิด บินมาเกาะที่มือหลวงพ่อและอยู่ใกล้ๆ เวลาหลวงพ่อดีกดพิมพ์พระเครื่อง))
เมื่อหมดฤกษ์ดี ท่านก็หยุด พระเครื่องยุคแรกของท่าน(จะมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ) พุทธคุณเหนือคำบรรยาย
พุทธคุณดีด้านเมตตา มหาเสน่ห์ มหานิยมและอยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุตม์ พุทธคุณดีทุกๆด้าน
ประวัติคร่าวๆ ของพระผงสุพรรณ ของ หลวงปู่ดี วัดพระรูป จัดสร้างในปี พ.ศ. ๒๕๑๓-๑๔ ด้วยผงพุทธคุณแก่น้ำมัน อันมีผงวิเศษต่างๆ ดังนี้
๑. ผงพุทธคุณ ทั้ง ๕ ของหลวงปู่ดี
๒. ผงว่าน 108 ชนิด
๓. ผงพระเครื่อง วัดปราสาทบุญญาวาส
๔. ผงพระวัดราชนัดดา
๕. ผงวัดป่าเรย์ไร
๖. แร่วิเศษต่างๆ อีกมากมาย เป็นต้น.
นอกจากนี้ ยังได้มีการพุทธาภิเษกจาก พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ของเมืองสุพรรณในยุคนั้น อันได้แก่
๑. หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
๒. หลวงพ่อถิร วัดป่าเรย์ไร
๓. หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย
๔. หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว
และหลวงพ่อดี วัดพระรูป ท่านยังเมตตาอธิษฐานจิตเดี่ยวอีก ถึง ๑ พรรษาด้วยกัน
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าพระผงสุพรรณของหลวงปู่ดีท่านสุดยอดครับ
http://www.web-pra.com/Shop/buchapha/Show/98985
หลวงพ่อดีท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านได้เข้าไปในพระอุโบสถและตั่งสัตย์ปฏิญาณว่า "ลูกไม่มีเงินที่จะพัฒนาวัด และเกินกำลังเหลือเกินจะขอสร้างวัตถุมงคลเพื่อหารายได้เข้าวัดขอให้วัตถุมงคลนี้มีเมตตา บารมี และศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้ผู้ที่มาเช่านำไปใช้เกิดศิริมงคล ลูกขอทำวัตถุมงคลนำเงินมาบูรณะวัดพระรูปให้เจริญก้าวหน้า และเมื่อวัดเจริญก้าวหน้าแล้วจะหยุดสร้างพระทันที ในการสร้างพระเครื่องพิมพ์ต่าง ๆ ท่านได้นำพระพิมพ์ต่าง ๆ ที่แตกหักจากเจดีย์ต่าง ๆ ทั่วเมืองสุพรรณ โดยเฉพาะพระชำรุดหักของวัดบ้านกร่าง วัดพระรูป และวัดมหาธาตุ พระผงสุพรรณ ฯลฯ มาเป็นส่วนผสมในมวลสาร
หลวงพ่อดีนั้นเวลาท่านทำพระเครื่องท่านจะกดพิมพ์เองกับมือวันหนึ่งทำไม่มากองค์หรอกครับ(เพราะเมื่อหมดฤกษ์ดี ยามดี ในแต่ละวันท่านก็หยุด)ท่านสร้างและเก็บไว้ เมื่อเกจิสมัยนั้นแวะเวียนมาหาท่าน ก็จะร่วมกันปลุกเสกด้วย (หลวงปู่โต๊ะ)(หลวงพ่อมุ่ย)(หลวงพ่อถิร)ฯลฯ
และนำเข้าพุทธาภิเศก ใหญ่อีกครั้ง ท่านสร้างพระเพราะต้องการให้ชาวบ้านได้ร่วมทำบุญและได้พระเครื่องไว้บูชาและนำเงินมาบำรุงวัดซึ้งในขณะนั้นวัดพระรูปได้ทรุดโทรมมาก
เมื่อได้เพียงพอแล้วจะหยุดสร้างทันที ต่อมาท่านก็หยุดสร้างจริงๆ ไม่ได้สร้างทุกๆปี หรือตามวาระพรรษา รุ่นหลังๆเป็นลูกศิษย์ขอสร้างเนื่องจากจะซ่อมแซมวัด(จึงเป็นเหตุให้ผงสุพรรณและพระขุนแผน พระปิดตา รุ่นที่หลวงพ่อกดพิมพ์เองจริงๆแล้วมีจำนวนไม่มากนัก)แต่รุ่นหลังๆ พุทธคุณก็เหมือนกันทุกประการ
ชาวเมืองสุพรรณและพื้นที่ใกล้เคียงล่ำลือกันว่า((จะมีผีเสื้อ ผึ้ง และนกหลายชนิด บินมาเกาะที่มือหลวงพ่อและอยู่ใกล้ๆ เวลาหลวงพ่อดีกดพิมพ์พระเครื่อง))
เมื่อหมดฤกษ์ดี ท่านก็หยุด พระเครื่องยุคแรกของท่าน(จะมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ) พุทธคุณเหนือคำบรรยาย
พุทธคุณดีด้านเมตตา มหาเสน่ห์ มหานิยมและอยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุตม์ พุทธคุณดีทุกๆด้าน
ประวัติคร่าวๆ ของพระผงสุพรรณ ของ หลวงปู่ดี วัดพระรูป จัดสร้างในปี พ.ศ. ๒๕๑๓-๑๔ ด้วยผงพุทธคุณแก่น้ำมัน อันมีผงวิเศษต่างๆ ดังนี้
๑. ผงพุทธคุณ ทั้ง ๕ ของหลวงปู่ดี
๒. ผงว่าน 108 ชนิด
๓. ผงพระเครื่อง วัดปราสาทบุญญาวาส
๔. ผงพระวัดราชนัดดา
๕. ผงวัดป่าเรย์ไร
๖. แร่วิเศษต่างๆ อีกมากมาย เป็นต้น.
นอกจากนี้ ยังได้มีการพุทธาภิเษกจาก พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ของเมืองสุพรรณในยุคนั้น อันได้แก่
๑. หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
๒. หลวงพ่อถิร วัดป่าเรย์ไร
๓. หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย
๔. หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว
และหลวงพ่อดี วัดพระรูป ท่านยังเมตตาอธิษฐานจิตเดี่ยวอีก ถึง ๑ พรรษาด้วยกัน
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าพระผงสุพรรณของหลวงปู่ดีท่านสุดยอดครับ
http://www.web-pra.com/Shop/buchapha/Show/98985
พระผงสุพรรณ
พระผงสุพรรณได้ปรากฏหลักฐานว่าขุดพบที่พระปรางค์องค์ใหญ่ของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๖ โดยท่านพระยาสุนทรบุรีเจ้าเมืองสุพรรณในขณะนั้นได้สั่งให้มีการเปิดกรุอย่างเป็นทางการ เพราะปรากฏว่ามีคนร้ายลักลอบขุดพระปรางค์องค์ใหญ่อยู่บ่อยครั้งซึ่งได้พบพระบูชาและพระเครื่องมากมายหลายพิมพ์ แม้แต่พระทองคำก็มีไม่น้อย นอกจากนี้ยังพบแผ่นลานเงิน แผ่นลานทอง ซึ่งได้บันทึกจารหลักฐานไว้ทำให้ชนรุ่นหลังได้ทราบว่า ในปีพ.ศ.๑๘๙๐ สมเด็จพระบรมราชาธิบดีที่ ๑ ทรงมีศรัทธาใน พระบรมพุทธศาสนาได้ทรงอัญเชิญพระมหาเถรปิยะทัสสีสารีบุตร ให้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระฤาษีทิวาลัยเป็นประธานฝ่ายฤาษีร่วมกันสร้างพระพุทธปฏิมากร เพื่อเป็นการสืบศาสนา พระผงสุพรรณเป็น พระเครื่องสกุลสูงเปรียบได้ว่าเป็นพระ ชั้นกษัตริย์ ของเมืองสุพรรณบุรี พุทธลักษณะเป็นพระสี่เหลี่ยมทรงชะลูดจนดูเกือบจะเป็นสามเหลี่ยมตัดปลาย มีบางองค์ถูกถูกตัดปลายออกสองด้านจนกลายเป็นห้าเหลี่ยมก็มีองค์พระนั่งปางมารวิชัยประทับบนฐานชั้นเดียวพระพักตร์ แตกต่างกันออกไปตามพิมพ์ด้านหลังปรากฏลายนิ้วมือแบบ" ตัดหวาย "ทุกองค์ เป็นศิลปะแบบอู่ทอง
|
พระผงสุพรรณ เนื้อเป็นเนื้อดินเผาละเอียดปราศจากเม็ดแร่ มีหลายสี เช่น สีแดง สีเขียว สีดำ และสีมอย(ดำจางๆคล้ายผงธูป) พระผงสุพรรณพิมพ์ที่นิยมในวงการมีอยู่ ๓ พิมพ์ ด้วยกันคือ
๑. พิมพ์หน้าแก่
สัญสักษณ์ที่สำคัญของพระผงสุพรรณอย่างหนึ่ง ก็คือว่า ที่ด้านหลังองค์พระจะต้องมี ลายมือติดอยู่ด้วยทุกองค์
http://pioneer.netserv.chula.ac.th/~tkitsana/pongsupon.htm
|
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)